Intel เคยต้องการซื้อ Nvidia ในราคาเพียง 2 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2548 อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่สามารถทำข้อตกลงนี้ได้และเลือกที่จะลงทุนในโครงการกราฟิกภายใน Larrabee ผลกระทบของการตัดสินใจครั้งนี้ทำให้ Nvidia เป็นบริษัทเกี่ยวกับที่ดินรายใหญ่อันดับสองของโลกในแง่ของมูลค่า ในขณะที่ Intel ต้องเผชิญกับปัญหาราคาหุ้นที่ลดลงและรายได้ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ หลังจากสูญเสียโอกาสกับ Nvidia และ OpenAI แล้ว Intel กำลังเผชิญกับความท้าทายมากมายในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในปัจจุบัน #Intel #Nvidia #OpenAI #Semiconductor #งานวันนี้ 🖥️📈
Intel เป็นผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ในปี 2548 อดีต CEO ของ Intel เสนอซื้อ Nvidia ในราคา 20 พันล้านดอลลาร์ ในเวลานั้น Nvidia มีชื่อเสียงในด้านกราฟิกการ์ดสำหรับคอมพิวเตอร์และมีศักยภาพมากมายในด้านศูนย์ข้อมูล


อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริหารของ Intel ไม่อนุมัติข้อตกลงมูลค่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์นี้ กลับมีความสนใจในโครงการกราฟิกภายในที่เรียกว่า Larrabee ซึ่งนำโดย Pat Gelsinger ซีอีโอคนปัจจุบัน
เกือบสองทศวรรษต่อมา Nvidia ได้กลายเป็นบริษัทมหาชนที่มีมูลค่ามากเป็นอันดับสองของโลก และเกินความคาดหมายของนักลงทุนมาโดยตลอด ในทางกลับกัน Intel บันทึกหุ้นลดลง 53% ในปีนี้ และมูลค่าหลักทรัพย์ของบริษัทน้อยกว่า 100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1/30 ของ Nvidia เท่านั้น ในเดือนสิงหาคมเพียงเดือนเดียว ราคาหุ้นของ Intel ลดลง 27% หลังจากรายรับและกำไรในไตรมาสที่สองไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้
หลังจากที่พลาด Nvidia ไป Intel ก็ยังพลาดโอกาสนี้ต่อไปเมื่อตัดสินใจไม่ซื้อหุ้นใน OpenAI เหตุผลที่ให้ไว้ก็คือ อดีต CEO ของ Intel ไม่คิดว่า OpenAI จะเปิดตัวโมเดล AI เจนเนอเรชั่นได้เร็วพอที่จะคุ้มค่ากับการลงทุน
Discover more from 24 Gadget - Review Mobile Products
Subscribe to get the latest posts sent to your email.

