ตำรวจและ Apple ต่างออกคำเตือนที่สำคัญเกี่ยวกับการปิดแอพ FaceTime บน iPhone เพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อการหลอกลวง เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีหลายกรณีของการฉ้อโกงเกิดขึ้นจากการใช้แอปพลิเคชันนี้
นักต้มตุ๋นมักแสร้งทำเป็นเจ้าหน้าที่สนับสนุนของแพลตฟอร์มหนึ่ง โดยอ้างว่ามีปัญหากับบัญชีการเงินของเหยื่อ และขอให้เหยื่อเข้าร่วมการประชุมทางวิดีโอออนไลน์เพื่อแก้ไขปัญหา จากนั้นพวกเขาจะสั่งให้เหยื่อโอนเงินหรือยืมเงินจากธนาคารหรือแพลตฟอร์มการให้กู้ยืมออนไลน์อื่นๆ
เพื่อหลีกเลี่ยงการตกหลุมพรางของโจร ตำรวจและ Apple แนะนำให้ผู้ใช้ปิดฟีเจอร์ FaceTime บน iPhone ทันที วิธีนี้จะช่วยให้ผู้ใช้หลีกเลี่ยงสถานการณ์การฉ้อโกงและปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของพวกเขา โปรดแชร์ข้อความนี้เพื่อช่วยป้องกันการฉ้อโกงบนโซเชียลเน็ตเวิร์กตั้งแต่วันนี้! #FaceTime #Police #Apple #Scam #Today ตำรวจและ Apple แนะนำให้ผู้ใช้ปิดฟังก์ชัน FaceTime บน iPhone เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะถูกหลอกลวง สิ่งนี้เกิดขึ้นหลังจากมีข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์นี้ในการก่ออาชญากรรม เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลและบัญชีของคุณ ผู้ใช้ควรใช้มาตรการความปลอดภัยเมื่อใช้แอปพลิเคชันวิดีโอแชทออนไลน์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเฉพาะ FaceTime กับคนที่คุณไว้วางใจเท่านั้น และอย่าแชร์ข้อมูลส่วนตัวมากเกินไปบนโซเชียลมีเดีย #FaceTime #ความปลอดภัยออนไลน์ #ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ตำรวจเมืองหางโจว (จีน) ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับการหลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับ iPhone เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง FaceTime – แอปพลิเคชันวิดีโอคอลของ Apple ถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือสนับสนุนที่มีประสิทธิภาพสำหรับกิจกรรมการฉ้อโกงเหล่านี้
ดังนั้น มิจฉาชีพจึงใช้ประโยชน์จากข้อมูลส่วนบุคคล เช่น หมายเลขโทรศัพท์ของฝ่ายตรงข้ามหรือ Apple ID เพื่อทำการฉ้อโกง เทคนิคของพวกเขานั้นง่ายมาก แต่หลายคนก็ติดกับดักของพวกเขา


FaceTime กำลังถูกขโมยหาประโยชน์และทำให้เกิดการหลอกลวงมากมายในช่วงไม่กี่ครั้งที่ผ่านมา
วิธีการฉ้อโกงผ่าน FaceTime
ขั้นตอนที่ 1: นักต้มตุ๋นส่งคำเชิญ FaceTime โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่สนับสนุนของแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่ง โดยประกาศว่าบัญชีการเงินของเหยื่อมีปัญหา และหากไม่จัดการอย่างทันท่วงที เงินจะถูกหักหรือส่งผลต่อเครดิต ทำให้เหยื่อตื่นตระหนก
ขั้นตอนที่ 2: สั่งให้เหยื่อเข้าร่วมการประชุมทางวิดีโอออนไลน์และขอแชร์หน้าจอ หรือสั่งให้เหยื่อเยี่ยมชมเว็บไซต์แปลก ๆ เพื่อติดต่อทีม “สนับสนุนออนไลน์”
ขั้นตอนที่ 3: หลอกเหยื่อให้โอนเงินไปยังบัญชีที่กำหนด หรือสั่งให้เหยื่อยืมเงินจากธนาคารหรือแพลตฟอร์มการให้กู้ยืมออนไลน์อื่น ๆ พร้อมสัญญาว่าจะชำระคืนหลังจากการตรวจสอบแล้ว
หลังจากที่เหยื่อถ่ายโอนเสร็จแล้ว FaceTime ID จะถูกบล็อกทันที


การหลอกลวงไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่หลายคนถูกหลอก
Apple และตำรวจเตือนผู้ใช้ให้ปิด FaceTime ทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงกลโกง
เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ผู้ใช้ iPhone ถูกหลอกลวงมากขึ้นเรื่อยๆ ตำรวจหางโจวได้ออกคำเตือนอย่างร้อนแรงแก่ผู้ใช้ว่าควรปิดฟีเจอร์ FaceTime โดยสมบูรณ์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
แต่เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ตัวแทนฝ่ายดูแลลูกค้าของ Apple ยังได้ยืนยันกับสื่อจีนว่าชื่อเล่นที่แสดงบน FaceTime เป็นชื่อที่ตั้งไว้ในบัญชี Apple ID ของผู้ใช้ ซึ่งหมายความว่าผู้ร้ายสามารถเปลี่ยนชื่อที่แสดงเพื่อแอบอ้างเป็นบุคคลที่พวกเขารู้จักได้อย่างง่ายดาย และสร้างความไว้วางใจกับเหยื่อ ตัวแทนของ Apple ยังเน้นย้ำว่า Apple จะไม่ติดต่อผู้ใช้แต่ละรายผ่าน FaceTime ดังนั้นผู้ใช้ควรพิจารณาปิดคุณสมบัตินี้หากไม่ได้ใช้งานเป็นประจำ


วิธีปิด FaceTime บน iPhone
ในกรณีที่จำเป็น Apple แนะนำว่าผู้ใช้ไม่ควรรับสาย FaceTime จากคนแปลกหน้า
หากต้องการปิดคุณสมบัติ FaceTime เพียงทำตาม 3 ขั้นตอนเหล่านี้: เปิดการตั้งค่า > เลือก FaceTime > ปิด FaceTime
Discover more from 24 Gadget - Review Mobile Products
Subscribe to get the latest posts sent to your email.
